หลายคนที่จัดฟัน เมื่อจัดไปแล้วเกิดอาการเสียวฟัน มักเกิดความวิตกกังวลเพราะไม่รู้ว่าทำไมจึงเสียวฟันมาก เป็นอาการผิดปกติหรือไม่ บทความนี้จะได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดฟันและอาการเสียวฟันที่อาจเกิดขึ้นได้บ่อย เพื่อจะได้ลดความกลัวหรือกังวลที่เกิดขึ้นในระหว่างจัดฟัน สิ่งที่ต้องทำเมื่อมีการจัดฟัน เนื่องจากการจัดฟันทำเพื่อจะแก้ไขการเรียงตัวของฟันที่ไม่เป็นระเบียบ ฟันซ้อน ฟันเก ซึ่งต้องใส่เครื่องมือแล้วแต่จะเลือกว่า เป็นประเภทไหน เครื่องมือจัดฟันแบบโลหะที่ติดกับฟันแบบแน่น เครื่องมือแบบดามอนที่ฟันเคลื่อนตำแหน่งเร็วกว่า เจ็บน้อยกว่าแบบโลหะ หรือเครื่องมือจัดฟันแบบใสที่ผ่านการพัฒนาด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ทำให้ผู้จัดฟันรู้สึกสะดวกขึ้น และยังทำความสะอาดได้ง่ายกว่าแบบโลหะติดฟันด้วย แต่ไม่ว่าจะใช้เครื่องมือจัดฟันแบบใด ก็ยังมีโอกาสเกิดปัญหาระหว่างจัดฟันหลายประการ เช่น 1. ปัญหาติดเครื่องมือจัดฟันแล้วทำให้พูดไม่ชัด เพราะมีเครื่องมือติดอยู่กับฟันตลอดเวลา ทำให้ผู้จัดฟันที่ยังไม่คุ้นเคยต้องคอยระมัดระวัง ต้องใช้เวลาปรับ การพูด การเสียดสีของเครื่องมือ จะค่อยๆ ดีขึ้น แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังมีปัญหาอื่นอีกเช่น เครื่องมืออาจจะมีการเสียดสีทำให้เกิดแผลในปากก็ได้ 2. เกิดปัญหามีกลิ่นปาก แน่นอนว่า การติดเครื่องมือจัดฟันทำให้ทำความสะอาดฟันยากขึ้นกว่าเดิม โอกาสที่จะยังคงมีเศษอาหารตกค้าง คราบพลัคที่สะสมของจุลินทรีย์จึงเกิดขึ้นง่าย และเป็นที่มาของกลิ่นปาก 3. อีกปัญหาหนึ่งก็คือ อาการเสียวฟัน บางคนเป็นมาก บางคนเป็นน้อย เพราะจะว่าไปแล้ว ผลข้างเคียงของการจัดฟันยังมีอยู่ตลอด บางทีไม่ใช่ความผิดพลาด แต่บางครั้งความผิดพลาดที่เกิดขึ้นก็ยังมีได้ ดังนั้น หากมีอาการผิดปกติอะไรขึ้นหลังจัดฟัน […]
Author Archives: admin
อาการเสียวฟัน เกิดจากอะไร / รักษาอย่างไร เชื่อว่าทุกคนเคยเจอประสบการณ์เสียวฟันมาแล้ว บางทีจู่ๆ ก็เสียวจี๊ดขึ้นมา บางครั้งอาการออกตอนดื่มน้ำ เวลาทานอาหาร บางทีมีอาการเสียวฟันมาก จนไม่อยากให้ฟันสัมผัสกับอะไรเลย ในเมื่ออาการเหล่านี้อาจเกิดได้กับทุกคน เราจึงน่าจะได้เรียนรู้เพื่อดูแลตัวเองให้ดีหลังจากนี้ รู้จักเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น และรู้แนวทางในการรักษาหากเกิดขึ้นกับตัวเอง สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเสียวฟัน โดยปกติ ฟันของคนเราจะมีเคลือบฟันคอยปกป้องเอาไว้ แต่เมื่อเคลือบฟันถูกทำลายไปจากหลายๆ สาเหตุ ทำให้เวลากินอะไร สิ่งเหล่านั้นจะสัมผัสโดนเนื้อฟันโดยตรง จึงมีอาการเสียวฟันเพราะเนื้อฟันนั้นมีท่อฟันที่นำไปสู่โพรงประสาทฟัน จุดรวมของเส้นประสาทที่ไวต่อการกระตุ้น ถ้าสึกมากๆ แม้แต่โดนลมยังเสียวฟันได้ อาการเสียวฟันจึงเกิดมาจากหลายสาเหตุ ได้แก่ 1. มีการสึกของเคลือบฟัน ซึ่งอาจเกิดมาจากการแปรงฟันรุนแรง ฯลฯ 2. เกิดจากสภาวะเหงือกร่น 3. คอฟันสึกกร่อน 4. ฟันผุ หรือมีอาการแตกร้าว ยิ่งใครชื่นชอบอาหารที่มีรสเปรี้ยวด้วยแล้ว ยิ่งกระตุ้นให้เกิดอาการเสียวฟันได้ง่ายขึ้น วิธีรักษาอาการเสียวฟัน อาการเสียวฟันที่เพิ่งเริ่มต้นเป็นสามารถรักษาเองได้ง่ายๆ โดยใช้ยาสีฟันที่ช่วยลดอาการเสียวฟันทาบริเวณฟันที่เสียว นวดวนทิ้งไว้แล้วบ้วนออก ไม่ต้องบ้วนน้ำตาม ก็จะช่วยลดอาการเสียวฟันได้ แต่ถ้าอาการเสียวฟันนั้นเกิดจากสาเหตุที่จำเป็นต้องได้รับการบรรเทาต้นเหตุ เช่น ฟันผุ แตก หรือโรคปริทัณฑ์ต้องพบทันตแพทย์เพื่อแก้ไขที่ต้นเหตุ ดังนี้ 1. เสียวฟันเพราะฟันเริ่มสึกเนื่องจากพฤติกรรมแปรงฟันแรง […]
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง ขณะจัดฟัน ขณะที่เรากำลังใส่เครื่องมือจัดฟันนั้น ควรงดรับประทานอาหารที่อาจจะทำให้เหล็กจัดฟันเกิดความเสียหายหรือส่งเสริมทำให้เกิดโรคในช่องปาก ดังนั้นการเรียนรู้ถึงสิ่งควรรับประทานและวิธีการรับประทานนั้น จะสามารถช่วยให้คุณปรับตัวให้เข้ากับเหล็กจัดฟันใหม่ได้ง่ายขึ้น โดย – ใส่ใจในการเลือกอาหารที่จะรับประทาน โดยเลือกอาหารที่ประโยชน์ต่อร่างกาย งดเว้นอาหารที่อาจจะทความเสียหายต่ออุปกรณ์จัดฟัน – หลีกเลี่ยงอาหารที่แข็ง ทั้งลูกอมแข็งหรือน้ำแข็ง รวมถึงผักที่มีก้านแข็งต่างๆ เช่น คะน้า บลอคโคลี่ แครอท เป็นต้น ผักเหล่านี้ควรปรุงให้สุกจนผักนิ่มลงก่อนที่จะรับประทาน – เลิกเคี้ยวอาหารเหนียว เช่น ข้าวเหนียว หมากฝรั่ง เยลลี่เหนียวๆ รวมถึงอาหารจำพวกคาราเมล เป็นต้น เนื่องจากอาหารเหล่านี้จะไปติดบริเวณเหล็กจัดฟัน ทำความสะอาดยาก ทำให้เกิดฟันผุหรือเหงือกอักเสบได้ง่ายขึ้น – อาหารจำพวกของหวาน ทั้งอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลมาก เช่น เค้ก ไอศกรีม พาย น้ำอัดลม เป็นต้น
เหงือกร่น คืออาการที่เนื้อเยื่อเหงือกบริเวณรอบ ๆ ฟันอ่อนแอลง ซึ่งอาจจะมาจากมีแผ่นคราบจุลินทรีย์เกาะเป็นเวลานานหรือแปรงฟันผิดวิธี จนทำให้เนื้อเหงือกค่อย ๆ ร่นเข้าไปหารากฟันและทำให้เห็นตัวฟันมากขึ้น บางรายเนื้อเหงือกอาจร่นไปจนเผยให้เห็นรากฟัน หากลงลึกถึงรากฟันจะทำให้เกิดอาการเสียวฟันเมื่อแปรงฟัน หรือดื่มของร้อนหรือเย็นได้ เหงือกร่นเกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่ร้ายแรงที่สุดคือเกิดจากโรคเหงือกอักเสบและโรคปริทันต์ ส่วนในระหว่างการจัดฟันนั้น จะมีเครื่องมือต่างๆติดอยู่บนตัวฟัน ทำให้ยากต่อการทำความสะอาดภายในช่องปาก ดังนั้น เรามาดู 14 ขั้นตอน ป้องกันไม่ให้เหงือกร่น สำหรับคนจัดฟัน – แปรงฟันอย่างถูกวิธี อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เพื่อป้องกันการเกิดโรคเหงือกอักเสบ – ใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำทุกวัน – แปรงสีฟันที่นำมาใช้ควรเป็นแปรงที่มีขนอ่อนนุ่ม – เลือกขนาดแปรงสีฟันให้เหมาะสม ไม่เล็กหรือไม่ใหญ่จนเกินไป – ระมัดระวังขณะแปรงฟัน ไม่ให้ไปกระแทกโดนเหงือก หรือแปรงฟันย้ำในบางตำแหน่งมากเกินไป – ใช้ยาสีฟันที่เป็นเนื้อครีม ไม่ควรใช้เป็นแบบผงแห้ง เพราะอาจทำอันตรายต่อผิวฟันได้ – ควรเปลี่ยนแปรงใหม่ เมื่อใช้งานครบ 3 เดือน หรือขนแปรงเริ่มบาน – ใช้แปรงสีฟันที่ออกแบบมาสำหรับคนจัดฟันโดยเฉพาะ – หยุดสูบบุหรี่ เนื่องจากการสูบบุหรี่เป็นสาเหตุทำให้เหงือกอักเสบและจะทำให้เกิดอาการเหงือกร่นตามมาได้ – […]
ขูดหินปูนแล้ว ทำให้ฟันห่าง จริงหรือ? คราบหินปูนถูกเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “หินน้ำลาย” เกิดจากคราบจุลินทรีย์หรือขี้ฟันที่สะสมและจับกับเชื้อโรคจนกระทั่งตกตะกอนกลายเป็นของแข็งเกาะอยู่บนผิวฟัน ซอกเหงือกและซอกฟัน โดยปกติคราบจุลินทรีย์เริ่มต้นที่เกาะอยู่บนผิวฟันจะมีลักษณะนิ่มและสามารถแปรงออกได้ แต่เมื่อใดที่มีแร่ธาตุจากน้ำลายมาผสมด้วยจะกลายเป็นคราบหินปูนที่มีลักษณะเป็นของแข็งไม่สามารถแปรงได้เอง ต้องให้ทันตแพทย์ทำการขูดหินปูนออกไปเท่านั้น – การขูดหินปูน เป็นการใช้ความถี่ในการสั่นของด้ามเครื่องมือที่ส่งผ่านมายังหัวขูด เพื่อที่จะกะเทาะให้หินปูนแตกเป็นแผ่นๆ ออกมา ไม่ใช่เป็นการไปขูดหรือไปกรอฟันให้ตัวฟันของเรานั้นบางลง – หลังการขูดหินปูน เราจะรู้สึกว่าฟันห่าง ซึ่งจริงๆแล้ว หลังจากกะเทาะหินปูนออกไป ลิ้นเราสามารถสัมผัสกันร่องฟันจริงของแต่ละซี่ได้ เลยอาจทำให้รู้สึกว่าฟันห่างได้ นอกจากนี้ การที่เราปล่อยให้เหงือกอักเสบเป็นระยะเวลานาน จำทำให้เหงือกร่น รวมทั้งอาจจะมีการทำลายกระดูกรอบๆรากฟัน ทำให้เห็นช่องว่างระหว่างรากฟันได้มากขึ้น เลยทำให้ดูเหมือนฟันห่างได้เช่นกัน
ทันตกรรมจัดฟัน คือ สาขาหนึ่งของทันตกรรม ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขตำแหน่งฟันไม่ถูกต้อง เช่น ฟันเก ฟันไม่สบกันหรือฟันยื่น ซึ่งทำให้ยากต่อการทำความสะอาด และมีความเสี่ยงต่อการสูญเสียฟันก่อนวัยอันควรเนื่องมาจากฟันผุและโรคเหงือกอักเสบได้ ขั้นตอนการจัดฟันโดยคร่าวๆ มีดังนี้ 1.ปรึกษาทันตแพทย์ เพื่อวางแผนการจัดฟัน โดยทันตแพทย์จะให้คำแนะนำ ข้อควรปฏิบัติ การดูแล รวมถึงพูดคุยรายละเอียดค่าใช้จ่ายทั้งหมด 2.พิมพ์ปากทำแบบจำลองฟัน เพื่อดูการสบฟัน โครงสร้างฟัน และเอกซเรย์ฟัน เพื่อดูลักษณะกระดูกขากรรไกร 3.ทำการเคลียร์ช่องปาก เช่น การขูดหินปูน การอุดฟัน และการถอนฟัน 4.ทำการติดเครื่องมือจัดฟันและนัดหมายมาพบเดือนละครั้ง เพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงและเปลี่ยนเครื่องมือ / ยางดึงฟัน 5.หมั่นดูแลรักษาและแปรงฟันให้สะอาดเป็นพิเศษ และขูดหินปูนเป็นประจำ ทุกๆ 6 เดือน 6.หลังจัดฟันเสร็จและถอดเครื่องมือแล้ว ทันตแพทย์จะให้ใส่รีเทนเนอร์ เพื่อคงสภาพตำแหน่งของฟันหลังการถอดลวดจัดฟันแล้ว
เมื่อมีอาการปวดฟัน ไม่จำเป็นต้องถอนฟันเสมอไป เมื่อเรามีอาการปวดฟันขึ้นมา หลายๆคนคิดว่า เมื่อเราปวดฟันแล้ว ก็น่าจะสมควรถอนฟันออกไป จะได้ไม่ปวดจนทรมานอีก ซึ่งจริงๆแล้ว เราควรรีบไปพบทันตแพทย์ เพื่อหาสาเหตุของอาการปวดฟัน ถ้าเป็นฟันผุลึกถึงชั้นโพรงประสาทฟันและยังมีเนื้อฟันเหลือเพียงพอ ทันตแพทย์ก็จะแนะนำให้ทำการรักษารากฟัน ก่อนการบูรณะฟันถาวร เพื่อเก็บฟันไว้ใช้งานได้ต่อไป โดยที่ไม่จำเป็นต้องถอนฟันก็ได้ แต่ในกรณีที่ผุลึกถึงบริเวณรากฟัน ก็อาจจำเป็นต้องถอนฟันในที่สุด
อาการเสียวฟัน เกิดจากอะไร อาการเสียวฟัน เกิดจากการที่ชั้นเนื้อฟัน (ที่เคยมีเคลือบฟันคลุมอยู่) เปิดเผยและได้รับการกระตุ้นจากสิ่งกระตุ้นต่างๆ เช่น น้ำเย็น อาหารหวาน อาหารเปรี้ยว การแปรงฟัน หรือแม้แต่ลม แล้วส่งสัญญาณไปถึงโพรงประสาทฟันจนเกิดอาการเสียวฟัน ซึ่งอาการเสียวฟันเกิดจากหลายๆปัจจัย เช่น 1.ใช้ยาสีฟันที่มีผงหยาบ หรือ ใช้แปรงสีฟันที่มีขนแข็ง รวมไปถึงใช้แรงในการแปรงฟันมากเกินไป 2.ทานอาหารที่มีรสเปรี้ยวจัดหรือเครื่องดื่มที่เป็นกรด (เช่น โซดา) ที่ก่อให้เกิดการกัดกร่อนเคลือบฟันและการเผยของชั้นเนื้อฟัน 3.มีฟันผุระยะลุกลามจนถึงชั้นเนื้อฟัน 4.ฟันสึกจากการนอนกัดฟันหรือในบางคนอาจเกิดจากภาวะกรดไหลย้อนทำให้ฟันสัมผัสกับกรด 5.ภาวะเหงือกอักเสบ จนทำให้เหงือกร่นจนเนื้อฟันบริเวณรากฟันโผล่
การถอนฟันถือเป็นทางเลือกสุดท้ายหลังจากทันตแพทย์พิจารณาหรือพยายามรักษาด้วยวิธีอื่นเพื่อเลี่ยงการถอนฟันแล้วแต่ไม่ได้ผล หรือเมื่อมีความจำเป็นต้องถอนฟัน ได้แก่ – การติดเชื้อหรืออักเสบของฟันเนื่องจากการมีฟันผุลึกถึงโพรงประสาทฟัน – มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ภาวะภูมิคุ้มกันร่างกายอ่อนแอที่อาจเป็นผลจากการรับยาเคมีบำบัดหรือยากดภูมิคุ้มกันจะทำให้ฟันที่ผุอยู่แล้วมีโอกาสผุยิ่งขึ้น – ฟันซ้อนที่เป็นอุปสรรคต่อการจัดฟัน เพื่อให้ฟันสามารถขยับเรียงตัวอย่างสวยงามได้ เมื่อทันตแพทย์พิจารณาที่จะถอนฟัน ดังนั้นหลังการถอนฟัน ควรปฏิบัติตัวดังต่อไปนี้ 1. กัดผ้าก๊อซแน่นๆ ไว้บริเวณแผลถอนฟัน ประมาณ 1-2 ชั่วโมง จนกว่าเลือดจะหยุดไหล 2. ห้ามเอาลิ้นหรือวัตถุแข็งๆ ไปเขี่ยหรือรบกวนแผล เพราะอาจจะทำให้ลิ่มเลือดที่แข็งตัวหลุดออกมา ทำให้มีเลือดไหลออกมาจากแผลซ้ำอีก 3. ในวันแรกหลังการถอน สามารถประคบความเย็น โดยใช้ถุงน้ำแข็งห่อผ้าไว้ แล้วนำไปประคบตรงแก้มบริเวณที่ถอนฟัน 4. ไม่ควรบ้วนน้ำแรงๆ ภายหลังการถอนฟัน 5. สามารถใช้น้ำเกลือบ้วนปากได้ 6. สามารถแปรงฟันได้ตามปกติ แต่ควรแปรงอย่างเบามือ 7. ควรงดอาหารที่มีรสจัดหรือเครื่องดื่มร้อนจนเกินไป 8. ควรงดสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ในช่วง 2-3 วันแรงหลังการถอนฟัน 9. รับประทานยาตามที่ทันตแพทย์แนะนำ
10 วิธีการดูแลฟัน สำหรับผู้ที่กำลังจัดฟัน เพื่อไม่ให้เกิดกลิ่นปาก 1.รับประทานอาหารจำพวกผัก ผลไม้ โดยเน้นที่มีกากใยอาหารสูง เพื่อช่วยขจัดคราบอาหารตามลิ้นและฟัน ในขณะที่กำลังเคี้ยวกากใยอาหารเหล่านี้ได้ 2.แปรงฟันอย่างน้อย วันละ 2 ครั้ง แต่ถ้าสามารถจะทำได้ ควรแปรงทุกครั้งหลังมื้ออาหาร เพื่อที่จะได้กำจัดคราบอาหารที่ติดตามซอกฟันหรือเครื่องมือจัดฟัน ที่เป็นแหล่งที่ทำให้เกิดกลิ่นปากได้ 3.ภายหลังการทานอาหาร ถ้ายังไม่สะดวกที่จะแปรงฟัน ควรบ้วนน้ำ เพื่อกำจัดเอาเศษอาหารที่ติดตามซอกฟันหรือเครื่องมือจัดฟันออก 4.ใช้อุปกรณ์สำหรับทำความสะอาดฟันเป็นพิเศษ ร่วมกับการแปรงฟัน เช่น แปรงซอกฟัน ที่ร้อยไหมขัดฟันร่วมกับไหมขัดฟันหรือ Superfloss 5.ใช้อุปกรณ์ทำความสะอาดฟันในข้อ 4 เป็นประจำทุกวัน 6.แปรงฟันอย่างถูกวิธี โดยใช้ร่วมกับแปรงสีฟันสำหรับคนจัดฟันโดยเฉพาะ 7.ควรที่จะใช้แปรงสีฟันแปรงลิ้นหรือใช้อุปกรณ์ทำความสะอาดลิ้นโดยเฉพาะ หลังการแปรงฟันทุกครั้ง เพื่อกำจัดแบคทีเรียที่สะสมตามร่องลิ้น 8.พยายามหลีกเลี่ยงอาหารที่มีกลิ่นแรง 9.งดการสูบบุหรี่ เพราะบุหรี่ทำให้เกิดคราบสะสมบนผิวฟันได้ง่ายและเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคเหงือกอักเสบ 10.ควรพบทันตแพทย์ เพื่อทำการตรวจฟันและขูดหินปูน ทุกๆ 6-12 เดือน
- 1
- 2